วิธีการตรวจสอบว่าคีย์ Winsock2 เสียหายหรือไม่
เพื่อตรวจสอบว่าอาการต่างๆ เกิดจากคีย์ Winsock2 หรือไม่ ให้ใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งต่อไปนี้วิธีที่ 1: ใช้เครื่องมือ Netdiag
การใช้เครื่องมือ Netdiag คุณต้องยกเลิกการติดตั้งเครื่องมือสนับสนุน Microsoft Windows XP เสียก่อน โดยให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้หมายเหตุ
- หากคุณได้ติดตั้ง Support Tools ให้ไปที่ขั้นที่สองในส่วนนี้
- หากคุณไม่ได้ติดตั้ง Support Tools และไม่มี Windows XP Setup CD ให้ใช้วิธีที่ 2
- ใส่แผ่น Windows XP Setup CD แล้วหาโฟลเดอร์ Support\Tools
- ดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ Setup.exe
- ทำตามขั้นตอนต่างๆ บนหน้าจอจนกระทั่งถึงหน้าจอSelect An Installation Type
- ที่หน้าจอSelect An Installation Type คลิกCompleteแล้วคลิกNext
- คลิกที่ Start คลิก Runพิมพ์ Command แล้วคลิก OK
- พิมพ์ netdiag /test:winsock แล้วกด ENTER
วิธีที่ 2: ใช้โปรแกรม Msinfo32
หมายเหตุ ใช้วิธีการนี้เฉพาะเมื่อคุณไม่มีแผ่น Windows XP Setup CD และคุณไม่ได้ติดตั้ง Support Tools ไว้- คลิกที่ Start คลิก Run พิมพ์ Msinfo32 แล้วคลิก OK
- ขยายComponentsขยายNetworkแล้วคลิกProtocol
- มีสิบส่วนภายในProtocol ส่วนหัวของส่วนต่างๆ จะมีชื่อต่างๆ ต่อไปนี้หากคีย์ Winsock2 ไม่ได้รับความเสียหาย:
- MSAFD Tcpip [TCP/IP]
- MSAFD Tcpip [UDP/IP]
- RSVP UDP Service Provider
- RSVP TCP Service Provider
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
- MSAFD NetBIOS [\Device\NetBT_Tcpip...
หากมีมากกว่าสิบส่วนในลิสต์ แสดงว่าคุณมีโปรแกรมอื่นๆ ติดตั้งไว้
หากมีน้อยกว่าสิบส่วน หมายถึงการที่มีข้อมูลขาดหายไป
หมายเหตุ รายการต่างๆ เหล่านี้แสดงการติดตั้งเฉพาะเมื่อมีการติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP เท่านั้น คุณสามารถมี Winsock ที่ใช้งานอยู่และดูรายการอื่นๆ เพิ่มเติมได้หากมีการติดตั้งโปรโตคอลอื่นๆ ไว้ ตัวอย่างเช่น หากคุณติดตั้ง NWLink IPX/SPX ไว้ จะเห็นส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ อีก 7 ส่วน ทำให้รวมเป็นทั้งหมด 17 ส่วน ด้านล่างนี้คือส่วนหัวของส่วนหนึ่งในส่วนใหม่:
MSAFD nwlnkipx [IPX]
และแต่ละส่วนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการติดตั้ง NWLink IPX/SPX จะเริ่มต้นด้วยชื่อ "MSAFD." โดยมีเพียงสองส่วนเท่านั้นที่ไม่ได้เริ่มต้นชื่อด้วยอักขระต่างๆ เหล่านั้นหากการทดสอบ Netdiag ล้มเหลว หรือหากคุณตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายกับ Winsock โดยการดูที่ Msinfo32 คุณต้องแก้ไขคีย์ Winsock2 โดยการใช้ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ในส่วนถัดไป
วิธีการแก้ไขจากการเสียหายของไฟล์ Winsock2
Windows XP พร้อมด้วยคำแนะนำ Service Pack 2
การแก้ไข Winsock หากคุณติดตั้ง Windows XP Service Pack 2 (SP2) ไว้ ให้พิมพ์netsh winsock reset ที่พรอมต์คำสั่ง แล้วกดปุ่ม ENTERหมายเหตุ รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์หลังจากรันคำสั่งนี้แล้ว นอกจากนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows XP SP2 มีคำสั่งใหม่คือnetsh ที่สามารถสร้างคีย์ Winsock ใหม่ได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดแวะไปที่เว็บไซต์ต่อไปนี้:คำเตือน โปรแกรมต่างๆ ที่ใช้งานหรือตรวจสอบอินเทอร์เน็ตเช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์หรือไคลเอนต์พร็อกซี่อาจได้รับผลกระทบเมื่อคุณรันคำสั่งnetsh winsock reset หากคุณมีโปรแกรมที่ทำงานได้ไม่ถูกต้องหลังจากคุณใช้วิธีการแก้ปัญหานี้แล้ว ให้ติดตั้งโปรแกรมนั้นๆ ใหม่เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
หมายเหตุ หากขั้นตอนเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ในส่วนถัดไป
คำแนะนำสำหรับ Windows XP ที่ไม่ได้ติดตั้งเซอร์วิสแพ็ค 2
เพื่อแก้ไข Winsock หากคุณไม่ได้ติดตั้ง Windows XP SP2 ไว้ ให้ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหายทิ้ง แล้วติดตั้งโปรโตคอล TCP/IP ใหม่ขั้นที่ 1: ลบรีจิสตรีคีย์ที่เสียหาย
คำเตือน อาจเกิดปัญหาร้ายแรง หากคุณแก้ไขรีจิสตรีไม่ถูกต้อง โดยใช้ Registry Editor หรือโดยใช้วิธีอื่น ซึ่งคุณอาจต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ไมโครซอฟท์ไม่อาจรับประกันได้ว่าปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ คุณต้องยอมรับความเสี่ยงในการแก้ไขรีจิสตรีด้วยตนเองสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแบ็คอัปรีจิสตรี โปรดคลิกที่หมายเลขบทความต่อไปนี้เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base:
322756 วิธีการแบ็คอัป แก้ไขและคืนค่ารีจิสตรีใน Windows XP และ Windows Server 2003 (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
- คลิกที่ Start และคลิกที่ Run
- ในช่อง Open ให้พิมพ์ regedit และคลิกที่ OK
- ใน Registry Editor หาคีย์ต่างๆ ต่อไปนี้ คลิกขวาที่แต่ละคีย์ แล้วคลิกDelete:HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\WinsockHKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Winsock2
- เมื่อระบบพรอมต์ให้คุณยืนยันการลบ ให้คลิก Yes
ขั้นที่ 2: ติดตั้ง TCP/IP
- คลิกขวาที่การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก แล้วคลิกProperties
- คลิก Install
- คลิกProtocol แล้วคลิกAdd
- คลิกHave Disk
- พิมพ์C:\Windows\infแล้วคลิกOK
- ในลิสต์ของโปรโตคอลต่างๆ ที่ใช้ได้ ให้คลิกInternet Protocol (TCP/IP)แล้วคลิกOK
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
=======================================================================